หน้าที่การทำงานของ Chip Set
1.
ให้การสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานของ
Processor แต่ละชนิด ปกติ Chip
Set
จะถูกออกแบบมาให้ใช้กับ
Processor ในแต่ละชนิด เช่น
Chip Set
ที่ออกแบบมาให้ใช้กับ
Processor 486
จะไม่สามารถใช้งานกับ
Processor Pentium
ส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานได้ดีกับ
Processor อื่น ๆเช่น Cyrix หรือ
AMD เป็นต้น การเปลี่ยนไปใช้
Processor ต่าง ๆ เหล่านี้
กระทำได้โดยการย้าย
Jumper บน Motherboard เท่านั้น
อย่างไรก็ดี
ขีดความสามารถที่
Motherboard
สามารถยอมรับการติดตั้ง
Processor แบบ 2 แรงดันไฟ
ไม่ใช่เป็นเพราะประสิทธิภาพของ
Chip Set
2.
ให้การสนับสนุนความเร็วในการทำงานของ
Processor การที่ Processor
ที่มีความเร็วสูงสามารถทำงานบน
Motherboard ได้ดี
ก็ต้องอาศัยประสิทธิภาพการทำงานของ
Chip Set
ที่มีวงจรควบคุมที่สามารถสนับสนุนความเร็ว
BUS ของ Processor
ได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้เรามักจะได้เห็นชุดของ
Chip Set ที่สามารถทำงานบนขนาดความเร็วที่ต่างกัน
เช่น 430FX,430HX,430VX
ต่างก็สนับสนุนความเร็ว
BUS ที่ 66 MHz. ขณะที่ 440BX
สนับสนุนการทำงานของ
BUS ที่ 100 MHz เป็นต้น
3.
สนับสนุนการทำงานของ
Processor หลายตัว (Multi Processor)
ในระบบเดียวกัน Chip Set
บางรุ่นสนับสนุนการติดตั้ง
Processor หลาย ๆ ตัวบน Motherboard
เดียวกัน
โดยที่วงจรควบคุมของ
Chip Set จะทำหน้าที่ประสานงานการทำงานของ
Processor ทั้งสอง
เพื่อที่จะไม่ให้
Processor
เหล่านี้รบกวนการทำงานของกันและกัน
โดยทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการเพื่อการจัดแบ่งภาระหน้าที่หรืองานระหว่าง
2 Processor ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การทำงานในลักษณะนี้เรียกว่า
SMP ( Symmetric Multiprocessing )
4.
ให้การสนับสนุนการทำงานของ
Cache Memory Chip Set
โดยทั่วไปสามารถให้การสนับสนุนการทำงานของ
Cache Memory ดังนี้
- สนับสนุนขนาดของ Cache
Memory ขนาดของ Cache Memory
มีผลต่อความเร็วของเครื่อง
PC เป็นอย่างมาก
สำหรับเครื่องที่มีหน่วยความจำหลักเกิน
64 MB ควรที่จะมี Cache Memory
ขนาด 512 KB เป็นอย่างน้อย
ซึ่ง Chip Set
หลายรุ่นสามารถทำให้ระบบสามารถมองเห็นได้มากถึง
1 MB หรือมากกว่า
- สนับสนุนชนิดของ Cache
Memory ปัจจุบันมี Cache อยู่
3 ชนิด
หลักที่ใช้กันอยู่
ได้แก่ Asynchronous ,Synchronous Burst
และ Synchronous Pipeline Burst Cache โดย Chip
Set
แต่ละรุ่นจะให้การสนับสนุนชนิดของ
Cache ที่แตกต่างกัน
เช่น Chip Set
ส่วนใหญ่บนเครื่อง PC
ที่ใช้ Processor 486
จะสนับสนุนแต่ Asynchronous
Cache เท่านั้น
นอกจากนี้ Chip Set
ที่ให้กับ Processor Pentium
ยุคแรก ๆ ก็สนับสนุน
Asynchronous Cache เช่นเดียวกัน
ส่วน Chip Set ที่ใช้กับ
Processor Pentium 75 90 100 MHz.
มักให้การสนับสนุน
Synchronous Pipeline Cache ขณะที่ Chip Set
รุ่น 430FX ,430Hx , 430VX , 430TX
เป็นต้นมา
ล้วนแต่ให้การสนับสนุน
Synchronous Pipeline Cache ทั้งสิ้น
-
สนับสนุนนโยบายการเขียนข้อมูลลงไปที่
Cache
ลักษณะนี้เป็นวิธีการจัดการเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลไว้ที่
Cache ซึ่งมีอยู่ 2
วิธีการ ได้แก่ แบบ Write
Through
ซึ่งก็คือการส่งสัญญาณเพื่อเขียนข้อมูลลงไปที่หน่วยความจำโดยเร็วที่สุด
เมื่อ Processor
ปล่อยข้อมูลออกมา
ขณะที่ Write Back หมายถึง
Processor จะเขียนข้อมูลลงไปไว้ที่
Cache ก่อน
แล้วจึงค่อยเขียนข้อมูลลงไปที่หน่วยความจำหลักในอับต่อไป
ซึ่ง Write Back เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
Write Through Chip Set
ปกติจะมีวงจรควบคุมที่ให้การสนับสนุนนโยบายการเขียนข้อมูลทั้งสองแบบ
-
สนับสนุนการจัดสรรหน่วยความจำของระบบเพื่อใช้
Cache
เป็นขีดความสามารถของ
Chip Set ที่จะมองเห็นหน่วยความจำหลักมากที่สุด
เพื่อจะเอาข้อมูลในหน่วยความจำหลักนี้มาเก็บไว้ใน
Cache ให้ได้ หมายความว่า
Chip Set
บางรุ่นสามารถนำเอาข้อมูลในหน่วยความจำหลักที่อยู่ในตำแหน่งเกินกว่า
64 MB มาเก็บไว้ใน Cache
ขณะที่ Chip Set
บางรุ่นก็ไม่สามารถ
อย่างไรก็ดี Chip Set
ในปัจจุบันสามารถมองเห็นข้อมูลในหน่วยความจำหลักได้สูงถึง
512 MB
ซึ่งก็หมายความว่า
เครื่อง PC
ยังเร็วอยู่
5.
ให้การสนับสนุนหน่วยความจำ
DRAM
- สนับสนุนการติดตั้ง
DRAM ขนาดสูงสุดบน Motherboard
การที่เครื่อง PC
สามารถติดตั้ง DRAM
ขนาดสูงสุดได้เท่าใด
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
Processor และ Socket ของ DRAM
เพียงอย่างเดียว
แต่ยังขึ้นอยู่กับ Chip
Set อีกด้วย Chip Set
ในปัจจุบัน
สามารถมองเห็น DRAM
ได้สูงถึง 2GB
-
สนับสนุนเทคโนโลยีต่าง
ๆ ของ DRAM
เช่นเดียวกับขนาดของ
DRAM
ที่ต้องขึ้นอยู่กับ
Chip Set เทคโนโลยีของ DRAM
ที่สามารถติดตั้งบนเครื่อง
PC ก็ขึ้นอยู่กับ Chip Set
เช่นเดียวกัน เช่น Intel
430LX ไม่สามารถทำงานกับ
EDO RAM ขณะที่ Intel 430FX
ที่สามารถทำงานร่วมกับ
EDO RAM ได้
- สนับสนุนการตรวจสอบ
Parity
หรือแก้ไขข้อผิดพลาดด้วย
ECC
การตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหน่วยความจำ
รวมทั้งการแก้ไขความผิดพลาดนี้จัดเป็นหน้าที่ของระบบควบคุมการทำงานของหน่วยความจำโดย
Chip Set บนเครื่อง PC
ในปัจจุบันหน้าที่การทำงานที่เกี่ยวกับ
Parity และ ECC
เป็นเรื่องของ Chip Set
กับ DRAM ที่ติดตั้ง Parity
ซึ่งเป็น DRAM Bit ที่ 9
รวมทั้ง DRAM ที่ติดตั้ง
ECC Chips อย่างไรก็ดี Chip Set
บางรุ่นไม่สนับสนุน
DRAM ที่ติดตั้ง ECC
-
ควบคุมจังหวะการทำงานและการไหลของข้อมูลข่าวสารของหน่วยความจำ
หน้าที่การทำงานที่จัดได้ว่าสำคัญที่สุดประการหนึ่งของ
Chip Set ได้แก่
การควบคุมการอ่านและเขียนข้อมูลที่หน่วยความจำ
จากนั้นก็ส่งถ่ายไปที่
Local Bus เช่น PCI หรือ AGP
ที่ส่งมาจาก Processor
การออกแบบ Chip Set
ที่ได้คุณภาพ ชนิดของ
Cache Memory ที่ใช้
อัตราความเร็วของหน่วยความจำหลักรวมทั้งชนิดของ
Processor ที่ใช้ ล้วนแต่มีบทบาทที่สำคัญต่อประสิทธิภาพการถ่ายเทข้อมูลระหว่าง
Processor ในระบบทั้งสิ้น
- ให้บริการถอดรหัส
Address
หน้าที่การทำงานของ
Chip Set
อีกประการหนึ่งได้แก่
การแปลข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอ้างอิงตำแหน่งของหน่วยความจำ
หรือ I/O ที่ Processor
ต้องการจะติดต่อด้วย
หมายความว่า Chip Set
สามารถถอดรหัสที่เป็น
Address มาจาก Processor
จากกนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสัญญาณควบคุมไปยังอุปกรณ์หน่วยความจำ
หรือ I/I
เพื่อเลือกใช้มัน
ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ
Processor
-
ควบคุมจังหวะการทำงานของหน่วยความจำ
เนื่องจาก Processor
เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานเร็วกว่าหน่วยความจำเสมอ
ด้วยเหตุนี้ Processor
จะต้องหยุดรอคอยจนกว่าหน่วยความจำจะปลดปล่อยข้อมูลที่มันต้องการออกมาเสียก่อน
จึงเริ่มงานขึ้นใหม่ได้
ดังนั้น Processor
จะต้องมีสถานะหนึ่งเรียกว่า
Wait-State หรือสถานะการรอคอย
ซึ่งนิยามของ Wait-State
ได้แก่
สถานะการรอคอยการทำงานของ
Processor
ที่มีต่อหน่วยความจำหลักหรือ
I/O ที่ทำงานช้ากว่า
หน้าที่ของ Chip Set
อีกประการหนึ่งได้แก่
ลดเวลาการรอคอยของ
Processor ลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การทำงาน Chip Set
ในส่วนนี้ ได้แก่
การสอดแทรกสถานะการรอคอยที่เหมาะสมเข้าไปในแต่ละรอบการทำงานของระบบ
หน่วยความจำหลักหรือ
Cache Memory
ยิ่งมีความเร็วมากเท่าใด
จำนวนรอบของการรอคอยยิ่งน้อยลงเท่านั้น
ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ
PC ดีขึ้น
-
ความสามารถในการตรวจสอบพบหน่วยความจำ
(Memory Auto Dectection ) Chip Set
ในปัจจุบันสามารถบ่งบอกชนิดของหน่วยความจำหลัก
รวมทั้งอัตราความเร็วของมันที่ติดตั้งอยู่บน
Motherboard ได้ ความสามารถในการตรวจสอบความเร็วของหน่วยความจำหลัก
ซึ่งก็คือ DRAM นั้น
จะทำให้ระบบสามารถปรับจังหวะความเร็วในการทำงานของสัญญาณนาฬิกาให้สอดคล้องต้องกัน
เพื่อป้องกันปัญหาอาการรวนที่อาจเกิดขึ้นได้
หน่วยความจำหลักที่ใช้เทคโนโลยี
SDRAM ในปัจจุบัน
มักจะติดตั้งอุปกรณ์เล็ก
ๆ ประเภท EEPROM
ที่มีความจุขนาด 128 Byte
ที่เรียกว่า SPD (Serial Presence
Detect)
อุปกรณ์ชิ้นนี้ติดตั้งอยู่บน
SDRAM Module ภายใน Chip ตัวนี้
ประกอบไปด้วยข้อมูลข่าวสาร
เกี่ยวกับขนาดความจุของ
SDRAM ความเร็วของ SDRAM
รวมทั้ง CAS Latency
และชนิดความเร็วของ
Bus ที่ใช้ เช่น PC100
ที่ใช้กับ Bus ขนาด 100 MHz.
เป็นต้น Chip Set
สามารถตรวจสอบพบคุณลักษณะของหน่วยความจำ
SDRAM Module นี้ ได้ด้วยการอ่านข้อมูลที่มาจาก
SPD
จากนั้นก็จะปรับจังหวะการทำงานให้สอดคล้องกัน
6. ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์
Peripheral
และควบคุมการทำงานของ
I/O Bus
คอมพิวเตอร์โดยทั่วไปจะ
I/O Bus อยู่ 2 ประเภท
ได้แก่ ISA และ PCI Bus
หน้าที่การทำงานของ
Chip Set ส่วนหนึ่ง ได้แก่
การควบคุมการทำงานของ
Bus ต่าง ๆ เหล่านี้
รวมทั้งควบคุมการถ่ายเทข้อมูลระหว่าง
Processor กับ I/O Bus
หรือจากหน่วยความจำ
กับ I/O Bus หรือระหว่าง I/O
Bus กับ I/O Bus ด้วยกัน
- สนับสนุนชนิดของ I/O Bus
ที่ใช้ Chip Set
แต่ละรุ่นให้การสนับสนุน
I/O Bus ที่ไม่เหมือนกัน
เช่น Chip Set ในยุคแรก ๆ
ให้การสนับสนุนแต่ ISA
Bus หรือ VL-Bus เท่านั้น
ไม่สามารถทำงานร่วมกับ
PCI Bus ได้
-
ควบคุมดูแลการทำงานของ
IDE/ATA Hard Disk Controller เครื่อง PC
ในปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมดจะมีชุดควบคุมอันเป็นวงจรควบคุมการทำงานของ
IDE/ATA Hard Disk Controller
ซึ่งอยู่ใน Chip Set
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Chip Set ตัวนี้ได้แก่ South
Bridge เช่น Intel 82371SB เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น Chip Set
ในปัจจุบันยังให้การสนับสนุนการทำงานของ
Ultra DMA-33 หรือ Ultra DMA-66
อีกด้วย
-
ควบคุมการทำงานของระบบ
Interrupt ระบบ Interrupt
เป็นระบบการขัดจังหวะการทำงานของ
Processor โดยอุปกรณ์ I/O
จุดประสงค์เพื่อให้
Processor
นั้นหยุดพักภารกิจชั่วคราว
แล้วหันมาให้บริการอุปกรณ์
I/O นั้น ๆ ปกติเครื่อง PC
ดั้งเดิมจะใช้ Chip แบบ
VLSI เบอร์ 8259A จำนวน 2 ตัว
เพื่อการดูแลจัดการกับการขอ
Interrupt โดยอุปกรณ์ I/O แต่
Chip Set
โดยทั่วไปได้ผนวกเอา
Chip 8259A ทั้ง 2
ตัวนี้มาไว้ใน Chip Set
เรียบร้อยแล้ว
- สนับสนุนระบบ USB USB
เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทดแทน
I/O Port หลาย ๆ
แบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เช่น Keyboard หรือ Mouse
เป็นต้น
ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าชนิดทาบกันไม่ติด
Chip Set ในปัจจุบันให้การสนับสนุน
USB ถึง 2 Port
ทำให้สามารถเชื่อต่ออุปกรณ์รอบข้างถึงมากถึง
127 อุปกรณ์
- สนับสนุนระบบ AGP หรือ
Accelerated Graphics Port เป็นระบบ Bus
แบบใหม่สำหรับภาคการแสดงผลที่มีความเร็วสูง
สามารถทำงานด้วยความเร็วใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับ
Bus ของ Processor เหมาะสำหรับงานกราฟฟิกประเภท
3D
-
สนับสนุนการทำงานแบบ
Plug and Play หรือ PnP
เป็นคุณลักษณะพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อการแก้ปัญหาการแย่งใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์
การทำงานของ Plug and Play
นี้จะต้องขึ้นอยู่กับ
Chip Set
-
สนับสนุนการบริหารจัดการ
การใช้พลังงานของคอมพิวเตอร์
( Power Management ) Chip Set
ในปัจจุบันสนับสนุนการลดพลังงานขณะที่เครื่องอยู่ในภาวะที่ไม่ทำอะไร
ซึ่งจะช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานขึ้น
เช่น ดับแสงบนจอภาพ
หรือหยุดการทำงานของ
Motor ของ IDE Hard Disk
เป็นการชั่วคราว
ผู้เผยแพ่บทความ
: http://www.santapol-c.ac.th
|